เมื่อแมวย้ายถิ่นฐานไปยุโรป
ในยุโรปสมัยกลาง แมวก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมอย่างสูง เนื่อง มาจาก ปัญหาการแพร่ระบาดของหนูที่มีทั่วทั้งทวีป ทำให้มีผู้คนต้องการที่จะเลี้ยงแมวเพิ่มมากขึ้น และสาเหตุที่แมวสามารถข้ามทวีปมาทางฝั่งยุโรปได้นั้น เพราะชาวโรมันที่ยึดครองอาณาจักรอียิปต์มีบทบาทสำคัญในการนำแมวมายังดินแดน แห่งนี้ จากเดิมที่แมวเป็นสัตว์ชั้นสูง คนที่เลี้ยงแมวจะต้องเป็นคนที่มีฐานะหรือการศึกษาดี กลายเป็นแมวได้รับความนิยมเลี้ยงในบ้านเรือนของประชาชนทั่วไปในฐานะผู้กำจัด สัตว์รบกวน และ แมวได้รับการดูแลเป็นอย่างดีตลอดเวลาหลายศตวรรษต่อจากนั้น ทั้งนี้ เนื่องจากมีบทลงโทษต่อผู้ที่ฆ่าแมว(ถึงแม้โทษจะไม่รุนแรงเท่าอียิปต์ก็ตาม) แต่เป็นบทลงโทษที่กำหนดโดยกษัตริย์พระองค์หนึ่งแห่งเวลส์ในยุคศตวรรษที่ 10 สะท้อนถึงความสำคัญของแมวได้เป็นอย่างดี กล่าวคือ ซากแมวจะถูกนำมาแขวนโดยผูกที่หางและปล่อยให้จมูกของมันแตะกับพื้นดิน โทษปรับต่อผู้ที่ฆ่าแมวตัวนั้นก็คือ การยึดเมล็ดธัญพืชที่กองสูงขึ้นจนสามารถปิดซากของแมวนั้นจนมองไม่เห็น ซึ่งธัญพืชดังกล่าวแทนปริมาณผลผลิตที่แมวตัวนั้นสามารถรักษาเอาไว้ได้จากการ กัดทำลายของหนู
จากบทลงโทษที่รุนแรงและหนัก ทำให้ผู้คนเลี้ยงดูและเอาใจใส่แมวเป็นอย่างดี จวบจนกระทั่งถึงยุคที่คริสตจักรรุ่งเรือง ความเชื่อเรื่องแมวได้เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ อ๊ะ แต่ถ้าอยากรู้ว่าชะตาของเจ้าเหมียวน้อยของเราจะเป็นอย่างไร โปรดติดตามเรื่องราวในหมวดต่อไป คือ มุมมืดในความเชื่อที่เกี่ยวกับแมว ซึ่งจะเป็นความเชื่อด้านลบที่มีต่อแมวในแต่ละวัฒนธรรม แต่จะเป็นอย่างไรนั้นโปรดติดตาม
ป.ล.เอารูปแมวสวยๆมาฝาก
แมวสาวไฮไซ
แมว ทำสปา
No comments:
Post a Comment